ทำไมถึงควรจ้างบริษัทดูแลสระว่ายน้ำ เพื่อลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ

หลายสถานที่เมื่อมีการสร้างสระว่ายน้ำไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต สวนน้ำ หรือแม้แต่บ้านอยู่อาศัยก็ตามมักเข้าใจว่าเพียงแค่การดูแลพื้นฐานด้วยตนเองก็ทำให้สระมีสภาพที่ดี สามารถใช้งานได้ในระยะยาว แต่ในความเป็นจริงการดูแลดังกล่าวอาจยังมีจุดไม่เหมาะสม หรือขาดความรู้เพียงพอนำไปสู่ข้อผิดพลาดเมื่อดูแลสระว่ายน้ำด้วยตนเอง ลองมาเช็กว่าปัญหาอะไรบ้างที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่ได้จ้างบริษัทดูแลสระว่ายน้ำที่มีช่างสระว่ายน้ำมืออาชีพ
ข้อผิดพลาดเมื่อดูแลสระว่ายน้ำด้วยตนเอง มีอะไรบ้าง
การมีสระว่ายน้ำไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างให้ดูสวยงามในครั้งแรกเท่านั้นแต่ต้องอาศัยการดูแลอย่างถูกต้องเพื่อให้สระมีคุณภาพดี เหมาะกับการใช้งาน อย่างไรก็ตามเจ้าของหลายคนมักพบเจอกับข้อผิดพลาดเมื่อดูแลสระว่ายน้ำด้วยตนเอง ดังนี้
1. ขาดการตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ
เป็นเรื่องปกติของสระว่ายน้ำเมื่อเวลาผ่านไปคุณภาพน้ำย่อมลดลง มีโอกาสเกิดสีเขียว น้ำขุ่น สีผิดปกติอื่น ๆ หรือสระมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ สาเหตุมาจากตะไคร่น้ำและสาหร่ายมีการเติบโต มีเศษขยะ ใบไม้ ฝุ่นละอองต่าง ๆ ในสระ ไปจนถึงมีแร่ธาตุบางชนิดปนเปื้อน เช่น สังกะสี เหล็ก เมื่อไม่ได้มีการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน อีกทั้งสระยังไม่น่าลงเล่นอีกด้วย
2. ละเลยการบำรุงรักษาปั๊มและระบบกรอง
ปั๊มสระว่ายน้ำทำหน้าที่ให้น้ำไหลเวียนในสระได้ดี สระน้ำสะอาด ขณะที่ระบบกรองส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของน้ำ หากขาดการบำรุงรักษาที่ดีมักทำให้สระมีสีขุ่น มีกลิ่น ปั๊มทำงานหนักและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุมักมาจากมีขยะ เศษใบไม้ แมลงไปติดค้างอยู่ในระบบ กลายเป็นข้อผิดพลาดเมื่อดูแลสระว่ายน้ำด้วยตนเองแบบไม่รู้ตัว
3. เติมสารเคมีผิดอัตราส่วน
หากใช้งานสระระบบคลอรีน ปกติระดับคลอรีนในสระว่ายน้ำควรมีค่า pH ระหว่าง 7.2 – 7.6 อย่างไรก็ตามหากคุณมีการเติมเคมีภัณฑ์สระว่ายน้ำผิดพลาดย่อมส่งผลเสียต่อคุณภาพน้ำในสระแบบไม่ต้องสงสัย เช่น เติมคลอรีนน้อยเกินไปทำให้แบคทีเรีย เชื้อโรค ตะไคร่น้ำเติบโตได้ดี เติมมากเกินไปส่งผลต่อตัวผู้ใช้งานอาจเกิดอาการแพ้ แสบผิว แสบตา และอื่น ๆ หรือบางกรณีอาจใช้สารเคมีคุณภาพไม่ดี เลือกชนิดไม่ถูกต้อง ไปจนถึงมีปัจจัยอื่นเพิ่มเติม อาทิ ฝนตกทำให้ค่า pH ในสระเพิ่มขึ้นแต่คุณไม่รู้ก็เติมปริมาณเท่าเดิม นั่นเท่ากับค่า pH จะสูงกว่าปกติ เป็นต้น
4. ละเลยการดูแลอุปกรณ์เสริม
นอกจากน้ำในสระแล้วบ่อยครั้งเจ้าของสระอาจละเลยเรื่องการดูแลอุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำจนส่งผลเสียต่อตัวผู้ใช้งานได้ เช่น บันไดสระว่ายน้ำชำรุด กระเบื้องพื้นสระแตกเสียหาย ไฟใต้สระไม่ส่องสว่าง เป็นต้น สร้างผลกระทบในแบบที่ไม่คาดคิดโดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุขณะกำลังใช้สระว่ายน้ำ
5. เติมสารเคมีผิดลำดับ
หลายคนเข้าใจว่าแค่เติมคลอรีนลงไปในสระแล้ววัดค่าให้ได้ปริมาณเหมาะสมก็เสร็จสิ้น แต่จริง ๆ แล้วต้องมีลำดับในการเติมอย่างถูกต้อง เช่น ควรเติมหลังสระปิดหรือตอนกลางคืนโดยเติมคลอรีนลงไปเบื้องต้นจากนั้นวัดค่าด้วยชุดเคมีทดสอบ หากค่า pH น้อยกว่า 7.4 ต้องเติมโซดาแอซเพื่อปรับสภาพน้ำให้มีความด่าง (คลอรีนทำให้น้ำเป็นกรด) แต่ถ้าค่า pH มากกว่า 7.6 ก็ต้องเติมกรดเกลือเพื่อเพิ่มความเป็นกรดให้กับน้ำ เป็นต้น
6. ล้าง Backwash ไส้กรองทรายไม่สม่ำเสมอ
ปกติไส้กรองทรายหรือ Backwash ควรมีการทำความสะอาดเป็นประจำอย่างน้อยทุก ๆ 2 สัปดาห์ / ครั้ง เพื่อลดฝุ่นสะสมในตัวถังกรอง สร้างประสิทธิภาพการใช้งานอย่างต่อเนื่อง แต่หลายคนอาจละเลยเรื่องนี้หรือไม่รู้ว่าต้องดูแลอุปกรณ์ดังกล่าวจนสระสกปรก
7. ขาดการควบคุมระดับน้ำในสระให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ระดับน้ำในสระที่เหมาะสมต้องไม่ต่ำกว่าสกิมเมอร์ (หากใช้สระระบบสกิมเมอร์) เพราะอาจทำให้ปั๊มน้ำเกิดความเสียหายและไม่สามารถดูดน้ำสร้างระบบหมุนเวียนที่ดีได้ หรือถ้าเป็นสระระบบน้ำล้นก็ต้องเช็กว่าน้ำล้นออกมาอยู่ตลอด เพราะถ้าระดับน้ำลดลงแสดงว่าระบบภายในสระกำลังมีปัญหา
จากข้อผิดพลาดที่เล่ามาทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนควรจ้างบริษัทดูแลสระว่ายน้ำเข้ามาช่วยดำเนินการเพื่อความถูกต้อง เหมาะสม สระได้มาตรฐานสามารถใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเงินซ่อมแซมปรับปรุงขนานใหญ่ให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ หรือถ้าอ่านแล้วอยากจ้างช่างสระว่ายน้ำมืออาชีพ