สารเคมีที่จำเป็นสำหรับการดูแลสระว่ายน้ำ
เมื่อพูดถึงการดูแลสระว่ายน้ำ หลาย ๆ คนอาจนึกถึงการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ หรือการกรองน้ำเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป ไม่เพียงแต่การดูแลตามที่กล่าวมา การดูแลสระว่ายน้ำยังเกี่ยวข้องกับการใช้เคมีภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้สะอาดและปลอดภัย โดยทาง PoolSPT ผู้ให้บริการรับดูแลสระว่ายน้ำจะพามาดูเคมีภัณฑ์สระว่ายน้ำที่สำคัญและจำเป็น
สารเคมีปรับสมดุล
สารเคมีปรับสมดุลเป็นสารเคมีใช้เพื่อควบคุมและรักษาคุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผู้ใช้งาน เพิ่มประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ในสระว่ายน้ำ เคมีภัณฑ์สำหรับการดูแลสระว่ายน้ำที่มีความสำคัญในการปรับสมดุล ได้แก่
- น้ำยาทดสอบคุณภาพน้ำ (pH Tester) ก่อนใช้สารเคมีปรับสมดุลควรมีการวัดและประเมินคุณภาพของน้ำในสระว่ายน้ำเสียก่อน ซึ่งควรมีการทดสอบเป็นประจำโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนหรือช่วงที่มีการใช้งานบ่อย
- โซดาแอช (Sodium Carbonate) มีคุณสมบัติเป็นด่าง ลักษณะเป็นผงสีขาว สามารถละลายในน้ำได้รวดเร็ว ใช้ปรับสภาพน้ำในสระที่มีความเป็นกรดหรือมีค่า pH ต่ำกว่า 6.8 และมีส่วนช่วยป้องกันการกัดกร่อนของอุปกรณ์ในสระว่ายน้ำ เช่น ท่อและปั๊มน้ำ
- กรดเกลือแห้ง (Sodium Bisulfate) มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง ลักษณะเป็นผงสีขาวและละลายในน้ำได้ดี ใช้ปรับสภาพน้ำที่มีความเป็นด่างหรือมีค่า pH สูงกว่า 7.8 หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ลดประสิทธิภาพของสารเคมีฆ่าเชื้อโรคได้
- สารปรับค่าความกระด้าง (Calcium Hardness Increaser) ใช้ในการเพิ่มแคลเซียมหรือความกระด้างของน้ำในสระว่ายน้ำ หากน้ำมีความกระด้างต่ำเกินไปจะทำให้น้ำมีสภาพเป็นกรดมากขึ้น การเพิ่มแคลเซียมจะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำและป้องกันการกัดกร่อนของอุปกรณ์ในสระว่ายน้ำ แต่ถ้าหากใส่มากเกินไปจะทำให้เกิดคราบขาวที่กระเบื้องสระน้ำได้
สารเคมีสำหรับฆ่าเชื้อโรคและกำจัดสิ่งสกปรก
การฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำคงเป็นสิ่งที่ทุกบ้านนึกถึงและให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ๆ เนื่องจากสระว่ายน้ำมักเป็นสถานที่ที่มีการใช้งานร่วมกันอยู่เสมอ การฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำช่วยป้องกันโรคติดเชื้อ เช่น โรคทางผิวหนังและอาการตาอักเสบ เป็นต้น โดยเคมีภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ ได้แก่
- คลอรีน เป็นเคมีภัณฑ์สระว่ายน้ำที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันดีสำหรับการฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย คลอรีนมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ในบางประเภทจะมีกรดไซยานูริกที่ช่วยชะลอการระเหยของคลอรีน แต่หากมีการตกค้างของกรดไซยานูริกก็จะกระทบต่อประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อในสระว่ายน้ำได้เช่นกัน ซึ่งประเภทของคลอรีนที่นิยมใช้ มีดังนี้
- คลอรีนชนิดผง (Calcium Hypochlorite)
- คลอรีนชนิดน้ำ (Sodium Hypochlorite)
- คลอรีนชนิดเม็ด (Trichloroisocyanuric Acid)
- คลอรีนชนิดเกลือ (Salt Chlorination)
- สารชะลอการระเหยของคลอรีน ช่วยลดอัตราการสลายของค่าคลอรีนในสระว่ายน้ำจากแสงแดดและอุณหภูมิที่สูง มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคและลดต้นทุนในการดูแลรักษาสระว่ายน้ำ
- น้ำยาขจัดคราบและทำความสะอาดกระเบื้องสระว่ายน้ำ ใช้กำจัดคราบสกปรกต่าง ๆ เช่น คราบขาว คราบเหลืองหรือคราบมันบริเวณขอบและกระเบื้องสระว่ายน้ำ
สารเคมีสำหรับแก้ปัญหาน้ำเขียวและน้ำขุ่น
ปัญหาน้ำเขียวและน้ำขุ่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำ สาหร่าย และสิ่งสกปรก การใช้สารเคมีที่เหมาะสมสามารถช่วยดูแลและแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเคมีภัณฑ์ที่นิยมใช้ในการแก้ปัญหาน้ำเขียวและน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำ ได้แก่
- สารเคมีควบคุมและกำจัดตะไคร่น้ำ ควบคุมการเกิดตะไคร่พร้อมทั้งลดปัญหาที่ทำให้น้ำขุ่นเนื่องจากการเติบโตของตระไคร่น้ำและสาหร่าย รวมทั้งลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม
- น้ำยาปรับสภาพน้ำใส ช่วยทำให้น้ำในสระว่ายน้ำใส โดยทำหน้าที่ในการกำจัดและเกาะจับสิ่งสกปรกและอนุภาคขนาดเล็กที่ทำให้น้ำขุ่นและมีสีเขียว หลังจากใช้งานอาจมีตะกอน ควรทำการดูดตะกอนสระน้ำร่วมด้วย
- น้ำยาเร่งตกตะกอน ใช้เพื่อแก้ปัญหาน้ำขุ่นโดยการเร่งกระบวนการตกตะกอนของสิ่งสกปรกในน้ำ เหมาะสำหรับน้ำที่มีความขุ่นสูงหรือมีตะกอนค่อนข้างมาก
การดูแลสระว่ายน้ำให้คงสภาพดีและน่าใช้งานอยู่เสมอต้องอาศัยเคมีภัณฑ์ที่หลากหลาย และควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของสระว่ายน้ำ นอกจากปริมาณและความถี่ในการใช้สารเคมีที่มีความแตกต่างกันตามสภาพของสระว่ายน้ำแล้ว การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งก่อนใช้สารมีก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ทาง PoolSPT เรายินดีให้บริการดูแลสระว่ายน้ำทุกระบบ พร้อมดูแลครบวงจรตั้งแต่การตรวจสอบหน้างาน ทำความสะอาด ตรวจสอบสารเคมี และปรับสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง