หลังสุนัขเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ ควรจัดการและทำความสะอาดอย่างไร

การปล่อยให้สุนัขได้ลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำมีประโยชน์เช่นเดียวกับมนุษย์ เนื่องจากการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายซึ่งมีแรงกระแทกต่ำ ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ เสริมสร้างสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้น ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุนัขที่เป็นโรคข้ออักเสบหรือปัญหาข้อต่อ และเมื่ออากาศร้อน การเล่นน้ำในสระย่อมช่วยคลายร้อนให้สุนัขได้อย่างดีเยี่ยม อย่างไรก็ดี ถ้าคุณไม่มีสระว่ายน้ำสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ การปล่อยให้สุนัขลงสระว่ายน้ำที่ใช้ร่วมกับมนุษย์ย่อมมีผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสระว่ายน้ำมากกว่าปกติ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผลกระทบของสุนัขต่อสระว่ายน้ำ
1. ผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ
- ค่า pH ของน้ำในสระว่ายน้ำเพิ่มขึ้น : ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเคยกล่าวว่า สุนัข 1 ตัวเทียบเท่ากับการใช้สระว่ายน้ำของคน 3 คน นั่นคือสุนัขจะนำสิ่งสกปรกลงสู่สระว่ายน้ำมากกว่าคน โดยเซลล์ผิวที่ตายและน้ำมันจากร่างกายของสุนัขทำให้เกิดฟอสเฟต และทำให้ค่า pH สูงขึ้น น้ำขุ่น และมีตะกรันติดบนอุปกรณ์สระ
- ประสิทธิภาพของคลอรีนลดลง : ขนของสุนัขเป็นแหล่งสะสมของสารปนเปื้อนหรือปรสิต ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของคลอรีนลดลงเร็วกว่าปกติ เมื่อระดับคลอรีนต่ำกว่ามาตรฐาน จะส่งผลให้เชื้อโรคในน้ำเติบโตอย่างรวดเร็ว น้ำขุ่นและมีตะไคร่น้ำ
- ตัวกรองอุดตัน : สุนัขมีขนมากกว่ามนุษย์และมีการผลัดขนจำนวนมากทุกวัน ขนของสุนัขย่อมไหลไปตามน้ำและถูกดักจับด้วยระบบกรอง ซึ่งจะส่งผลให้ระบบกรองอุดตันได้เร็วกว่าปกติ
2. การเสื่อมสภาพของอุปกรณ์และโครงสร้างสระว่ายน้ำ
- เครื่องกรองทำงานหนักขึ้น : ทั้งนี้โดยปกติแล้ว ตามตัวของสุนัขมักมีสิ่งสกปรก ใบไม้ หรือเศษขยะอื่น ๆ ซึ่งเมื่อฝุ่นผงเหล่านี้ลงสู่น้ำในสระ จะส่งผลให้ระบบกรองน้ำทำงานหนักขึ้น และถ้าไม่มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ระบบกรองอุดตัน เป็นสาเหตุให้เครื่องกรองทำงานไม่เต็มที่
- อุปกรณ์และผนังสระว่ายน้ำเสียหาย : เล็บของสุนัขอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน และอาจเกิดการรั่วซึมของผนังสระโดยเฉพาะเมื่อพื้นสระถูกปูด้วยไลเนอร์จากวัสดุพีวีซีหรือไวนิล
สระว่ายน้ำที่มีสุนัขใช้งานร่วมด้วยควรดูแลอย่างไร
1. ตักสิ่งสกปรกออกจากผิวน้ำเป็นประจำ
หลังพาสุนัขขึ้นจากน้ำ ควรช้อนสิ่งสกปรกออกจากผิวน้ำ เพื่อไม่ให้เศษขยะหรือสารแขวนลอยถูกดึงเข้าสู่ระบบกรองน้ำ เป็นการลดภาระการทำงานของเครื่องกรอง
2. ดูดตะกอนที่อยู่ก้นสระ
ตะกอนในสระว่ายน้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำขุ่น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสาหร่าย การดูดตะกอนสระน้ำที่อยู่ก้นสระเป็นประจำช่วยให้น้ำใสสะอาด ลดโอกาสที่สาหร่ายจะเติบโต ซึ่งอาจทำให้มีน้ำสีเขียวและไม่ปลอดภัยสำหรับการว่ายน้ำ
3. รักษาสมดุลทางเคมีของน้ำในสระว่ายน้ำ
ตรวจสอบสารเคมีในสระ เช่น ระดับคลอรีน ระดับ pH และใช้เคมีภัณฑ์เพื่อปรับสมดุลน้ำ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคและสาหร่ายเติบโต ลดการชำรุดเสียหายของอุปกรณ์และพื้นผิวของสระว่ายน้ำ
4. การทำความสะอาดตัวกรอง
ควรล้างตัวกรองให้บ่อยขึ้นเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและขนของสุนัข เป็นการช่วยรักษาสมดุลทางเคมีของสระว่ายน้ำอีกวิธีหนึ่ง ทั้งยังทำให้ตัวกรองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
5. ใช้ผ้าคลุมสระว่ายน้ำ
นอกจากผ้าคลุมสระว่ายน้ำจะมีประโยชน์ในการป้องกันเศษขยะและเศษใบไม้ปลิวลงสระ ลดการระเหยและการใช้สารเคมี ยืดระยะเวลาการบำรุงรักษา ยังช่วยจำกัดเวลาในการใช้งานสระว่ายน้ำ และป้องกันไม่ให้สุนัขตกลงไปในน้ำได้อีกด้วย
การปล่อยให้สุนัขเล่นน้ำในสระมีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยงที่คุณรักหลายประการ แต่เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไวต่อคลอรีนมากกว่ามนุษย์ จึงควรให้สุนัขลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะหรือปรับระดับคลอรีนให้เหมาะสม และหลังจากสุนัขขึ้นจากน้ำ ควรทำความสะอาดสระว่ายน้ำ ตรวจสอบระดับคลอรีน ตรวจสอบอุปกรณ์การกรอง ตลอดจนระบบบำบัด เพื่อให้น้ำในสระยังคงใสสะอาด ปราศจากเชื้อโรค และเหมาะแก่การใช้งานทุกเมื่อ